• เพิ่ม ลด แก้ไขบัญชีตนเอง หรือบัญชีผู้อื่นทั้งภายในธนาคาร และต่างธนาคาร
• แก้ไขข้อมูลบัญชีตนเอง เช่น ชื่อย่อบัญชี หรือแก้ไขข้อมูลบัญชีผู้อื่น เช่น ชื่อย่อบัญชี หมวดหมู่ อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้สำหรับแจ้งผลการทำรายการ

บริการโอนเงินระหว่างบัญชีตนเอง ภายในธนาคาร 

1. สามารถโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน เพื่อนำเงินเข้าบัญชีฝากประจำ (ประเภทสมุดคู่ฝาก) บัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวัน ได้ทันที
2. สามารถตั้งรายการโอนเงินล่วงหน้าสูงถึง 180 วัน พร้อมทั้งเลือกความถี่ในการโอนเงิน เช่น โอนครั้งเดียว โอนเป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน
3. กรณีตั้งรายการโอนเงินล่วงหน้า สามารถยกเลิกหรือแก้ไขคำสั่งโอนเงินได้ ก่อนเวลา 30 นาที ของวันที่ตั้งให้ระบบทำการโอนเงิน กรณีระบบทำรายการตามคำสั่งภายหลังเวลา 06:30 น. ไปแล้ว จะไม่สามารถยกเลิก หรือแก้ไขรายการได้
4. เรียกดูและสั่งพิมพ์รายการโอนเงินย้อนหลังได้ 180 วัน

บริการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลอื่น ภายในธนาคาร

1. สามารถโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน เพื่อนำเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวันของบุคคลอื่น ได้ทันที
2. สามารถตั้งรายการโอนเงินล่วงหน้าสูงถึง 180 วัน พร้อมทั้งเลือกความถี่ในการโอนเงิน เช่น โอนครั้งเดียว โอนเป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน
3. กรณีตั้งรายการโอนเงินล่วงหน้า สามารถยกเลิกหรือแก้ไขคำสั่งโอนเงินได้ ก่อนเวลา 30 นาที ของวันที่ตั้งให้ระบบทำการโอนเงิน กรณีระบบทำรายการตามคำสั่งภายหลังเวลา 06:30 น. ไปแล้ว จะไม่สามารถยกเลิก หรือแก้ไขรายการได้
4. เรียกดูและสั่งพิมพ์รายการโอนเงินย้อนหลังได้ 180 วัน

บริการโอนเงินต่างธนาคาร
สามารถโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน เพื่อนำเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวันของบุคคลอื่น ได้ทันที

1. โอนเงินเข้าบัญชีแบบทันทีด้วยเลขที่บัญชี
2. โอนเงินเข้าบัญชีแบบทันทีด้วยพร้อมเพย์ (PromptPay)
3. โอนเงินเข้าบัญชีภายใน 1 วันทำการ และ 2 วันทำการ กรณีทำรายการหลัง 10:30 น. จะถือเป็นการทำรายการในวันทำการถัดไปของธนาคาร
4. สามารถตั้งรายการโอนเงินล่วงหน้าสูงถึง 180 วัน พร้อมทั้งเลือกความถี่ในการโอนเงิน เช่น โอนครั้งเดียว โอนเป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน
5. กรณีตั้งรายการโอนเงินล่วงหน้า สามารถยกเลิกหรือแก้ไขคำสั่งโอนเงินได้ ก่อนเวลา 06:30 น. ของวันที่ตั้งให้ระบบทำการโอนเงิน กรณีระบบทำรายการตามคำสั่งภายหลังเวลา 06:30 น. ไปแล้ว จะไม่สามารถยกเลิก หรือแก้ไขรายการได้
6. เรียกดูและสั่งพิมพ์รายการโอนเงินย้อนหลังได้ 180 วัน

1. สามารถนำยอดฝากประจำเดิมที่ยังไม่ครบกำหนด มาฝากประจำในระยะเวลาใหม่
2. สามารถเปลี่ยนระยะเวลาการฝากของแต่ละยอดเงินที่ฝากไว้ ได้วันละ 1 ครั้งเท่านั้น

หมายเหตุ: ระบบจะเริ่มคำนวณอัตราดอกเบี้ย ณ วันที่ลูกค้าทำรายการใหม่ โดยยอดเงินและดอกเบี้ยที่ลูกค้าจะได้รับจะเป็นไปตามเงื่อนไขของบัญชีเงินฝากที่ธนาคารประกาศกำหนด

1. สามารถสร้าง QR Code เพื่อรับชำระเงินจากผู้อื่น เพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว
2. สร้าง QR Code จากหมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือเลขประจำตัวประชาชน ที่ได้ลงทะเบียนบริการ KKP พร้อมเพย์ไว้กับธนาคาร
3. QR Code ที่สร้างขึ้น สามารถใช้แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของต่างธนาคาร สแกนเพื่อชำระเงินได้
4. สามารถใช้ KKP e-Banking บนโทรศัพท์มือถือ สแกน QR Code ทั้งของธนาคารและต่างธนาคารเพื่อชำระเงินได้

1. สามารถหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวันเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆได้
2. สามารถใช้แอพพลิเคชั่น KKP e-Banking และแอพพลิเคชั่น Phatra Edge ในการสแกนหรือเบราว์ QR Code/Barcode เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆได้
3. สามารถตั้งรายการชำระเงินล่วงหน้าได้สูงถึง 180 วันพร้อมทั้งเลือกความถี่ในการชำระค่าสินค้าและบริการ เช่น ชำระครั้งเดียว ชำระเป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
4. กรณีตั้งรายการชำระเงินล่วงหน้าสามารถยกเลิกหรือแก้ไขคำสั่งโอนเงินได้ก่อนเวลา 06:00 น. ของวันที่ตั้งให้ระบบทาการโอนเงินกรณีระบบทำรายการตามคำสั่งภายหลังเวลา 06:00 น. ไปแล้วจะไม่สามารถยกเลิกหรือแก้ไขรายการได้
5. เรียกดูและสั่งพิมพ์รายการชำระค่าสินค้าและบริการย้อนหลังได้ 180 วัน

1. สามารถเรียกเก็บเงินจากผู้อื่น โดยเรียกเก็บผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือเลขประจาตัวประชาชน ที่ลงทะเบียนผ่านบริการพร้อมเพย์
2. ผู้เรียกเก็บเงินและผู้ถูกเรียกเก็บ จะต้องลงทะเบียนบริการพร้อมเพย์ทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อใช้บริการนี้
3. รายการที่เรียกเก็บเงินจากผู้อื่น มีอายุในการรอรับชาระเงิน 45 วัน
4. กรณีได้รับข้อความเรียกเก็บเงิน สามารถชำระเงินให้ผู้เรียกเก็บเงินโดยวิธีการโอนเงินหรือวิธีการชำระค่าสินค้าและบริการ

สามารถลงทะเบียน KKP พร้อมเพย์ ผูกหมายเลขประจำตัวประชาชน หรือ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ กับบัญชีเงินฝากเงินฝากของท่านที่เปิดไว้กับธนาคาร

1. เลขประจำตัวประชาชน ผูกกับบัญชีเงินฝากได้ 1 บัญชีเท่านั้น
2. หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 1 เลขหมาย ผูกกับบัญชีเงินฝากได้ 1 บัญชีเท่านั้น
3. บัญชีเงินฝาก 1 บัญชี ผูกได้ทั้งเลขประจำตัวประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์มือถือ

• สามารถหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวันเพื่อบริจาคได้
• สามารถใช้แอพพลิเคชั่น KKP e-Banking และแอพพลิเคชั่น Phatra Edge ในการสแกนหรือเบราว์ QR Code/Barcode หรือ กรอกรหัสอ้างอิง (Reference No.) เพื่อบริจาคได้
• เรียกดูและสั่งพิมพ์รายการบริจาคย้อนหลังได้ 180 วัน
• อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาคให้สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้โดยไม่ต้องนำหลักฐานการบริจาคมาแสดงต่อกรมสรรพากร

ให้บริการเพิ่มเติมผ่านแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking Mobile เท่านั้น

• สามารถซื้อ ขายคืน และ/หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมต่างๆ ที่ธนาคารเป็นตัวแทน
• สามารถเรียกดูข้อมูลกองทุนรวม ข้อมูลระดับความเสี่ยงของผู้ขอใช้บริการ (Risk Profile) และข้อมูลอื่นๆ เช่น ข่าวสารกองทุน เป็นต้น ตามที่ธนาคารได้จัดให้มีขึ้น
• สามารถแจ้งเตือนการจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมของผู้ขอใช้บริการได้

ลูกค้าประเภทบุคคลธรรมดา

1. มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารประเภทออมทรัพย์ บัญชีกระแสรายวัน หรือบัญชีเงินฝากประจำอย่างน้อย 1 บัญชี (ต้องเป็นบัญชีชื่อเดี่ยวเท่านั้น)
2. อีเมล (Email Address) และเบอร์โทรศัพท์มือถือ ให้ไว้กับธนาคาร
3. สมัครใช้บริการผ่านสาขาของธนาคาร ซึ่งจะได้รับ Email จากธนาคารแจ้งการสมัครเสร็จสมบูรณ์

ขั้นตอนการสมัครและเริ่มใช้บริการ

1. สมัครบริการที่สาขาของธนาคาร
2. ได้รับอีเมลแจ้ง การสมัครเสร็จสมบูรณ์ พร้อมรหัสอ้างอิง
3. เข้าเว็บไซต์ KKP e-Banking เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้งาน คลิก

การเข้าใช้บริการ

1. เข้าใช้งานผ่านเว็บไซต์ KKP e-Banking ด้วย ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password)
2. เข้าใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking
   - เข้าใช้งานครั้งแรกด้วย ชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่าน
   - หลังจากนั้นทำการตั้ง PIN เป็นตัวเลข 6 หลัก เพื่อใช้ในการเข้าใช้งานครั้งต่อๆ ไป

หมายเหตุ: ธนาคารจำกัดจำนวนอุปกรณ์ในการเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking (ปัจจุบันอยู่ที่ 2 เครื่อง) กรณีเข้าใช้งานเกินจำนวนอุปกรณ์ที่กำหนด ระบบจะแจ้งเตือนก่อนให้ยกเลิกอุปกรณ์ที่เคย Login เข้าใช้งานนานที่สุด โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกก็ได้

การรีเซ็ตรหัสผ่าน / PIN

1. ระบบจะทำการ Lock บัญชีผู้ใช้งาน ในกรณีที่ระบุรหัสผ่าน หรือ PIN ผิดเกินจำนวน 5 ครั้ง โดยผู้ใช้งานจะต้องทำการรีเซ็ตรหัสผ่าน/ PIN เพื่อให้สามารถใช้บริการได้ต่อไป
2. การรีเซ็ตรหัสผ่าน สามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ ทำด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ KKP e-Banking ตามกระบวนการที่กำหนด หรือติดต่อ KKP Contact Center
3. การรีเซ็ต PIN ให้ทำการกดปุ่ม 'ลืม PIN' บนหน้า Login ของแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking หลังจากนั้นทำการ Login ด้วยชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่าน เพื่อทำการตั้ง PIN ใหม่

หมายเหตุ: รหัสผ่าน หรือ PIN ที่ตั้งใหม่ จะไม่สามารถซ้ำกับรหัสผ่าน หรือ PIN เดิมที่เคยใช้ 3 ครั้งล่าสุด

กรณีลืมชื่อผู้ใช้งาน (Username) 
ติดต่อ KKP Contact Center หลังจากนั้นจะได้รับรหัสอ้างอิงผ่านทางอีเมล นำรหัสอ้างอิงที่ได้รับทำตามกระบวนการที่กำหนด

OTP คืออะไร  OTP (One Time Password) คือ รหัสผ่านชั่วคราวที่ใช้เพื่อยืนยันการทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบ KKP e-Banking ซึ่ง OTP จะใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อหนึ่งธุรกรรมเท่านั้น ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานซ้ำได้ โดยธนาคารจะทำการส่ง OTP ในรูปแบบ SMS ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับธนาคารเท่านั้น

ประโยชน์ของ OTP  เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการทุจริต และโจรกรรมข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต

ระยะเวลาหมดอายุของ OTP  อายุการใช้งานของรหัสผ่าน OTP จะสิ้นสุดภายใน 5 นาทีเท่านั้น ดังนั้นหากเกินเวลาที่กำหนด ท่านจำเป็นต้องขอ OTP ใหม่อีกครั้ง

จำนวนครั้งในการขอ OTP  กรณีขอ OTP ติดต่อกันจำนวน 5 ครั้ง ภายใน 1 นาที และไม่ได้ทำการกรอก OTP ที่ได้รับ ท่านจะต้องรอ 1 นาที จึงจะสามารถขอ OTP ใหม่ได้

จำนวนครั้งในการกรอก OTP  หากกรอก OTP ผิดเกิน 3 ครั้ง ท่านจะไม่สามารถทำธุรกรรมที่ใช้ OTP เดิมได้ ซึ่งจะต้องขอรับ OTP ใหม่อีกครั้ง

วิธีใช้งาน OTP  เมื่อได้รับ OTP ผ่านทาง SMS แล้ว ให้นำ OTP ที่ได้รับครั้งล่าสุดกรอกลงในช่องที่กำหนดไว้ โดยสามารถตรวจสอบ OTP ที่ได้รับว่าตรงกับธุรกรรมที่กำลังดำเนินการได้ โดยสังเกตที่ OTP Reference ในหน้าจอระบบ และ ในข้อความ SMS

หมายเหตุ:

1. ค่าธรรมเนียมดังกล่าวอาจมีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ธนาคารจะประกาศหรือแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน หากผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการ KKP e-Banking ภายหลังที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ให้ถือว่าผู้ใช้บริการตกลงยอมรับการเรียกเก็บหรือการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว
2. ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าธรรมเนียมในการทำรายการโอนเงินทุกกรณี หากตรวจสอบแล้วพบว่าความผิดพลาดเกิดจากการทำรายการของลูกค้า เช่น เลขที่บัญชีปลายทางไม่ถูกต้อง หรือบัญชีปลายทางมีสถานะปิด เป็นต้น

หมายเหตุ: ลูกค้า KKP e-Banking ที่เปิดใช้บริการ KKP e-Banking @PhatraEdge จะสามารถใช้วงเงินในการทำธุรกรรมสูงสุดได้ตามตาราง วงเงินในการทำรายการ ของบริการ KKP e-Banking @PhatraEdge

(?)บริการ KKP e-Banking คืออะไร

บริการ KKP e-Banking เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตที่ธนาคารได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารสามารถบริหารจัดการด้านการเงินได้ด้วยตนเอง บนพื้นฐานของระบบการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน โดยให้บริการทั้งในรูปแบบของเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น รองรับการใช้งานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยมีบริการต่างๆ อาทิ บริการเรียกดูข้อมูลบัญชีเงินฝาก ข้อมูลรายละเอียดกองทุนรวม บริการโอนเงินระหว่างบัญชีตนเอง โอนเงินให้บุคคลอื่นและโอนเงินต่างธนาคาร บริการชำระค่าสินค้า/บริการ เป็นต้น โดยสามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

(?)การสมัครใช้บริการ KKP e-Banking

คุณสมบัติของผู้สมัครใช้บริการ

1. เป็นลูกค้าประเภทบุคคลธรรมดา
2. มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารเกียรตินาคินประเภทออมทรัพย์ บัญชีกระแสรายวัน หรือบัญชีเงินฝากประจำอย่างน้อย 1 บัญชี (ต้องเป็นบัญชีชื่อเดี่ยวเท่านั้น)
3. มีอีเมล (Email Address) และเบอร์โทรศัพท์มือถือ ให้ไว้กับธนาคารเกียรตินาคินภัทร
4. สมัครใช้บริการผ่านสาขาของธนาคาร ซึ่งจะได้รับ Email จากธนาคารแจ้งการสมัครเสร็จสมบูรณ์

ขั้นตอนการสมัครและเริ่มใช้บริการ

1. สมัครบริการที่สาขาของธนาคาร
2. ได้รับ Email แจ้งรหัสอ้างอิง
3. นำรหัสอ้างอิงที่ได้รับสร้างบัญชีผู้ใช้งานผ่านเว็บไซต์ KKP e-Banking คลิก

(?)ทำอย่างไรเมื่อสมัครบริการแล้วแต่ไม่ได้รับ Email แจ้งรหัสอ้างอิง

ติดต่อ KKP Contact Center 02 165 5555 เพื่อขอรหัสอ้างอิงอีกครั้ง

(?)มีบัญชีผู้ใช้งานอยู่บน KK e-Banking เดิมอยู่แล้ว สามารถใช้งาน KKP e-Banking เวอร์ชั่นใหม่ได้หรือไม่

กรณีมีบัญชีผู้ใช้งานอยู่บน KKP e-Banking เดิมอยู่แล้ว ให้ใช้ Username/Password ที่มีอยู่ Login เข้าใช้งาน KK e-Banking ตัวใหม่
ระบบจะแจ้งให้ท่านทำการรีเซ็ทรหัสผ่านก่อนเริ่มใช้ KKP e-Banking เวอร์ชั่นใหม่ กรณีที่ระบบแสดงข้อความ “ชื่อผู้ใช้งาน หรือรหัสผ่าน ไม่ถูกต้อง” ให้ทำการติดต่อ KKP Contact Center 02 165 5555

(?)ต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว เช่น Email หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ

สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลได้ที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทรทุกสาขา

(?)การใช้งานผ่าน Application KKP e-Banking

ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

1. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking จาก App Store สำหรับมือถือระบบปฎิบัติการ iOS
2. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking จาก Play Store สำหรับมือถือระบบปฎิบัติการ Android

เริ่มใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น

1. ใช้ชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านในการเข้าใช้งานครั้งแรก
2. หลังจากนั้นทำการตั้ง PIN ตัวเลข 6หลัก เพื่อใช้ในการเข้าใช้งานครั้งต่อไป

หมายเหตุ: ธนาคารจำกัดจำนวนอุปกรณ์ที่เข้าใช้งานตามที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย กรณีเข้าใช้งานจากอุปกรณ์เครื่องใหม่เกินจำนวนที่กำหนด ระบบจะถามความต้องการในการยกเลิกเครื่องที่เคยเข้าใช้งานนานที่สุด เพื่อให้สามาถใช้งานบนอุปกรณ์ใหม่ได้

(?)เมื่อไม่สามารถอัพเดทแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking บนมือถือระบบปฎิบัติการ iOS

ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้

1. ลบแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking เวอร์ชั่นที่ใช้งานอยู่
2. ทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น KKP e-Banking เวอร์ชั่นใหม่ จาก App Store

 เอกสารประกอบคลิก